กองทุน วิพล-อุษณีย์ สุภาชัยวัฒน์ บริจาคเงิน 110,000 บาท

(3-4-2563)  นายแพทย์สุดชาย เลยวานิชย์เจริญ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลมหาสารคาม พร้อมด้วยบุคลากร ร่วมรับมอบเงินบริจาค จำนวน 110,000 บาท จากกองทุน วิพล-อุษณีย์ สุภาชัยวัฒน์ ซึ่งมีจิตอันเป็นกุศลในการสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาลบาลมหาสารคาม พร้อมกันนี้ยังได้มอบข้าวกล่อง เครื่องดื่ม และน้ำ ในนามของร้านสุภาพรพืชผล เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรโรงพยาบาลมหาสารคาม ที่ปฏิบัติงานในช่วงภาวะวิกฤติการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19

ซึ่งคณะผู้บริหารและบุคลากรทุกคน ขออ้างอิงถึงอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย กุศลทานบริจาคในครั้งนี้ จงบันดาลให้ผู้บริจาค และครอบครัว ประสบสรรพสิริสวัสดิ พิพัฒนมงคล ประสงค์สิ่งใดจงสัมฤทธิ์ผล และมีความเจริญก้าวหน้า สมดังปรารถนาทุกประการ

ร้านนิวติ๊กเซ้ง บริจาคเสื้อกันฝน 200 ตัว  คุณฤทธิรงค์ ภูมิสวัสดิ์ บริจาคเงิน 14,000 บาท

ร้านนิวติ๊กเซ้ง บริจาคเสื้อกันฝน 200 ตัว  คุณฤทธิรงค์ ภูมิสวัสดิ์ บริจาคเงิน 14,000 บาท

(1-4-2563)  นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม รับมอบเงินบริจาค จำนวน 14,000 บาท  และเสื้อกันฝน จำนวน 200 ตัว จากคุณฤทธิรงค์ ภูมิสวัสดิ์ พร้อมครอบครัว และร้านนิวติ๊กเซ้ง ที่มีจิตอันเป็นกุศลสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลมหาสารคาม

รพ.มหาสารคาม ร่วมออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และรับบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

(18-3-2563) ที่ โรงเรียนวาปีปทุม ตำบลหนองแสง อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม  แพทย์หญิงจรัญญา จุฬารี รองผู้อำนวยการด้านบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลมหาสารคาม พร้อมด้วย บุคลากร ร่วมพิธีเปิด โครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และรับบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีนายพงษ์พันธ์ แสงสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดโครงการ ซึ่งกิจกรรมจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ประกอบด้วย การให้บริการ 4 ด้าน ได้แก่  การให้บริการทางการแพทย์ทั่วไป  บริการทันตกรรมเคลื่อนที่  บริการตรวจตา บริการสุขภาพจิตเคลื่อนที่ การรับบริจาคโลหิต และศูนย์รับบริจาคอวัยวะโรงพยาบาลมหาสารคาม ทั้งนี้มีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

 

 

มหาสารคาม – ส่งเสริมความรู้ ชุมชนบ้านหนองหิน “รู้ เลือก ใช้” ยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหารปลอดภัย สมุนไพร  กายใจเป็นสุข หยุดยั้ง NCDs ด้วยวิถี บวร.ร.

 

(13-3-2563) นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “รู้ เลือก ใช้” ยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหารปลอดภัย สมุนไพร กายใจเป็นสุขหยุดยั้ง NCDs ด้วยวิถี บวร.ร. (บ้าน วัด โรงเรียน โรงพยาบาล) เพื่อสร้างความรอบรู้ให้กับประชาชน บ้านหนองหินหมู่ 3 และหมู่ 4   ตำบลโคกก่อ  อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม  ซึ่งมีพระภิกษุ, นักเรียน อย.น้อย, ผู้ประกอบการร้านชำ, ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง, ผู้นำชุมชน, เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคของพื้นที่โคกก่อ ผู้เข้าร่วมประชุมอบรม จำนวน 200 คน   โดยจัดอบรมในครั้งนี้งานคุ้มครองผู้บริโภค กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลมหาสารคาม ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินโครงการร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กลุ่มงานเภสัชกรรม กลุ่มงานการพยาบาลชุมชน กลุ่มงานสุขศึกษา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกก่อ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองมหาสารคาม คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอเมืองมหาสารคาม (พชอ.)

 

ปัจฉิมนิเทศ นักศึกษาแพทย์รุ่นที่ 6

ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก  โรงพยาบาลมหาสารคาม จัดงานปัจฉิมนิเทศ และแสดงความยินดีวันสำเร็จการศึกษา นักศึกษาแพทย์รุ่นที่ 6

(13-3-2563)  นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม  เป็นประธานกล่าวแสดงความยินดี และมอบเกียรติบัตรการผ่านปฏิบัติงานตามหลักสูตร แก่นักศึกษาแพทย์ที่สำเร็จการศึกษา  จำนวน 16 คน ซึ่งนับเป็นบัณฑิตรุ่นที่ 5 ของศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก  โรงพยาบาลมหาสารคาม โดยกระทรวงสาธารณสุข   ได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดำเนินงานตามโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนและการกระจายแพทย์ให้เหมาะสมในพื้นที่ชนบท   ซึ่งในงานยังมีพิธีบายศรีสู่ขวัญ และพิธีมอบเกียรติบัตร    โดยมีคณะผู้บริหาร อาจารย์แพทย์ ผู้ปกครอง นักศึกษาแพทย์ และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมงานเพื่อแสดงความยินดี

 

ผู้บำเพ็ญประโยชน์ โรงเรียนวาปีปทุม บริจาคถุงผ้า 500 ใบ

(9-3-2563) นางกันตา คำพอ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโรงพยาบาลมหาสารคาม พร้อมด้วยบุคลากร ร่วมรับมอบถุงผ้าจำนวน 500 ใบ จากผู้บำเพ็ญประโยชน์ โรงเรียนวาปีปทุม  โดยมีวชิรพงศ์ วงศ์สระคู เป็นผู้แทนมอบ  เพื่อนำไปให้กับผู้ที่มารับบริการในโรงพยาบาลมหาสารคาม

โดยกระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ เลิกใช้ถุงพลาสติก และรณรงค์ให้ประชาชนนำถุงผ้ามาใส่ยาทุกครั้ง  โดยผู้ที่สนใจจะร่วมบริจาคถุงผ้า สามารถแจ้งความจำนงค์ได้ที่ งานประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลมหาสารคาม โทร. 043-711750

หลวงปู่ปรีดา ฉนฺทกโร (หลวงปู่ทุย) วัดแสงอรุณ (วัดป่าดานวิเวก) บริจาคเครื่องสลายเนื้อเยื่อด้วยความถี่เหนือเสียง (CUSA)  มูลค่า 3,850,000 บาท

(9-3-2563) นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และบุคลากร ร่วมรับมอบเครื่องสลายเนื้อเยื่อด้วยความถี่เหนือเสียง (CUSA)  มูลค่า 3,850,000 บาท  จากหลวงปู่ปรีดา ฉนฺทกโร (หลวงปู่ทุย) วัดแสงอรุณ (วัดป่าดานวิเวก) ตำบลศรีชมภู อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ  โดยมีคณะลูกศิษย์เป็นผู้แทนมอบในครั้งนี้

 

หลวงปู่ทุย หรือ พระอาจารย์ปรีดา ฉนฺทกโร จากวัดป่าดานวิเวก อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ท่านเป็นพระธรรมยุตสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ศิษย์รุ่นน้องหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และ หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม หลวงปู่ทุยขึ้นชื่อว่าเป็นพระป่าที่ยังคงรักษาข้อวัตร ปฏิปทา และธรรมเนียมของพระป่าได้อย่างดี ท่านเคยเป็นพระอาจารย์ให้กับพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เมื่อครั้งที่ท่านออกบวชในปีพ.ศ. 2547

 

วัดป่าดานวิเวก ตั้งอยู่ที่อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ภายในมีเพียงอาคารเสนาสนะ ประกอบด้วยกุฎิสงฆ์ ศาลาอเนกประสงค์ที่สร้างด้วยไม้ และเรือนปฏิบัติธรรมของฆราวาส ถึงแม้ว่าหลวงปู่ทุยจะมีกิตติศัพท์ในเรื่องของความดุ เจ้าระเบียบ และความเคร่งครัด แต่ก็มีความเมตตาต่อลูกศิษย์มากมาย เพราะท่านตั้งใจจะยึดปฏิบัติตามแบบโบราณ ยึดกับของเก่า ไม่ใช้เทคโนโลยี เนื่องจากท่านเห็นว่าเทคโนโลยีเข้ามาจะเป็นผลเสีย คนสมัยนี้วิ่งเร็วเกินตัวเองไปมาก อันตราย ภายในวัดจะไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา พระสงฆ์และเณรใช้แสงไฟจากตะเกียงและน้ำบาดาลเท่านั้น ดังนั้นในวัดจึงไม่มีการบอกบุญ เรี่ยไร หรือตั้งตู้รับบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ข้อห้ามอย่างหนึ่งที่หลวงปู่ทุยห้ามอย่างเด็ดขาดก็คือ ห้ามถ่ายภาพตัวท่านและภายในวัดเป็นอันขาด เพราะท่านไม่เห็นว่าจะเกิดประโยชน์อันใด

 

ถึงแม้ว่าท่านจะขึ้นชื่อในความดุและเจ้าระเบียบ แต่กระนั้นก็ยังคงมีพระและสามเณรหลั่งไหลเข้ามาจำพรรษาเพื่อศึกษาธรรมจากหลวงปู่ทุยอย่างไม่ขาดสาย ตั้งแต่ก่อตั้งวัดป่าดานวิเวกหลวงปู่ทุยได้จัดงานทอดผ้าบังสุกุลเพียงครั้งเดียวเมื่อปีพ.ศ. 2550 ในครั้งนั้นหลวงตามหาบัวเป็นผู้มารับผ้าป่า และอีกครั้งหนึ่งเมื่อปีพ.ศ. 2556 ในครั้งนั้นหลวงพ่อทุยได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อเป็นสิริมงคลในงานมอบเครื่องมือแพทย์แก่โรงพยาบาลหนองคาย โดยมีพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นองค์ประธาน

 

หลวงปู่ทุยเคยสอนหลักธรรมง่าย ๆ แต่แสดงให้เห็นถึงวัตรปฏิบัติอันงดงามของท่าน ได้แก่

 

“โยมไม่ต้องมาบริจาคเงินให้วัด โยมเอาเงินไปให้พ่อแม่ได้บุญมากกว่าเอามาให้วัด เรื่องเงินไม่สำคัญ ฆารวาสมีศีล 5 ก็พอ”

 

“โยมอย่าเอาไฟฟ้าเข้าวัด เพราะจะทำให้พระต้องมีค่าใช้จ่าย พระไม่มีรายได้ อยู่โดยไม่มีไฟฟ้าดีกว่า”

 

“โยมมาที่วัดขออย่าอึกทึกเสียงดัง มาอยู่วัดให้ทำสมาธิฝึกจิต ได้บุญกว่ามานั่งกราบพระ”

 

พุทธศาสนิกชนบางท่านอาจจะคิดว่าการทำบุญต้องใช้เงินทำบุญเป็นจำนวนมาก จนลืมไปว่าแท้จริงแล้วต้องใช้ธรรมะเป็นที่พึ่ง เหมือนดั่งที่พระพุทธวจนะที่กล่าวไว้ว่า พวกเธอทั้งหลาย จงมีตนเป็นประทีป มีตนเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ จงมีธรรมเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ

 

ข้อมูลจาก www.goodlifeupdate.com

 

 

โรงพยาบาลมหาสารคาม ซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)

โรงพยาบาลมหาสารคาม ซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)

(4-3-2563) นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาสารคาม เป็นประธานในการซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ (Tabletop Exercise: TX) เพื่อเตรียมความพร้อมระบบฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและภัยสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ และเป็นการเตรียมความพร้อมระบบจัดการภาวะฉุกเฉินภายใต้ระบบบัญชาการเหตุการณ์ (Incidence Command System : ICS) หากเกิดสถานการณ์จริง พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (Emergency Operation Center : EOC)

โรงพยาบาลมหาสารคาม ซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)

 

โรงพยาบาลมหาสารคาม ซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)

โรงพยาบาลมหาสารคาม ซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)

โรงพยาบาลมหาสารคาม ซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)

โรงพยาบาลมหาสารคาม ซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)

 

Chiangmai Herbs Trading Limited บริจาคหน้ากากอนามัย (Surgical mask) 3M

(4-3-2563) คุณกันตา คำพอ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลมหาสารคาม พร้อมด้วยคุณรัตนาภรณ์ ยนต์ตระกูล ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านลูกค้าสัมพันธ์ และกิจกรรมพิเศษ  ร่วมรับมอบ หน้ากากอนามัย (Surgical mask) 3M จำนวน 600 ชิ้น จาก Chiangmai Herbs Trading Limited เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในห้องผ่าตัดและหอผู้ป่วยวิกฤตของโรงพยาบาลมหาสารคาม

ผู้ประกันตนใช้สิทธิประกันสังคม ที่โรงพยาบาลมหาสารคาม ดีอย่างไร ?

 

วิธีเปลี่ยนสิทธิประกันสังคม เพื่อมารับบริการที่ โรงพยาบาลมหาสารคาม 

ทำง่ายๆได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์และแอพฯ SSO CONNECT

เริ่มตั้งแต่ 16 ธ.ค. 62 ถึง 31 มี.ค. 63

 

สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนสามารถเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ปีละ 1 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 31 มี.ค.ของทุกปี

ซึ่งในปี 2563 สำนักงานประกันสังคมแจ้งว่า ผู้ประกันตนสามารถยื่นเรื่องขอเปลี่ยนได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2562 – 31 มี.ค.2563

 

วิธีเปลี่ยนโรงพยาบาลประจำปี

สำหรับปี 2563 ผู้ประกันตนสามารถยื่นคำร้องเปลี่ยนได้ตั้งแต่ วันที่ 16 ธ.ค.2562 – 31 มี.ค.2563

ถ้าหากกรณีมีเหตุจำเป็น เช่น ย้ายที่พักอาศัย ย้ายสถานที่ทำงานประจำและไม่ประสงค์จะไปรับบริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาลดังกล่าว สามารถเปลี่ยนโรงพยาบาลนอกช่วงเวลาที่กำหนดได้ โดยเปลี่ยนระหว่างปีได้นอกเหนือจาก ม.ค.-มี.ค. ในแต่ละปี

ช่องทางเปลี่ยนแปลงข้อมูล

ขั้นตอนการเปลี่ยนโรงพยาบาล

ช่องทางที่ 1 : ผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม https://www.sso.go.th/wpr/main

  • ลงทะเบียนและ Log in ให้เรียบร้อย
  • คลิก ผู้ประกันตน และ ยื่นแบบขอเปลี่ยนสถานพยาบาล
  • เลือกสาเหตุการเปลี่ยนโรงพยาบาล
  • เลือกโรงพยาบาลที่ต้องการ โดยต้องเลือกโรงพยาบาลที่อยู่ในเขตจังหวัดที่ทำงานอยู่ หรืออาศัยอยู่จริง หรือเขตจังหวัดใกล้เคียง
  • กดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข

ช่องทางที่ 2 : ผ่านแอปพลิเคชั่น SSO CONNECT

  • ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SSO Connect จากนั้นลงทะเบียนข้อมูลต่างๆ
  • กดเลือกที่เมนู เปลี่ยนโรงพยาบาล
  • เลือกสาเหตุการเปลี่ยนโรงพยาบาล
  • เลือกโรงพยาบาลที่ต้องการ โดยต้องเลือกโรงพยาบาลที่อยู่ในเขตจังหวัดที่ทำงานอยู่ หรืออาศัยอยู่จริง หรือเขตจังหวัดใกล้เคียง
  • กดยอมรับเงื่อนไข และข้อตกลง

ส่วนการใช้งานแอปพลิเคชัน SSO Connect การใช้งานใกล้เคียงกับเว็บไซต์ครับ หากเราไม่เคยเป็นสมาชิก ต้องสมัครก่อนใช้งาน การใช้งานใกล้เคียงกับเว็บไซต์ www.sso.go.th เพียงแค่ย้ายมาอยู่ในมือถือเท่านั้น !