พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นกรณีพิเศษ “นพ.ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์” กรณีเสียชีวิตจาก COVID-19 โดยเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอุตสาหะเสียสล
(9 มีนาคม 2564) ที่ ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้แทนพระองค์ ในการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือกเป็นกรณีพิเศษ แก่ นายแพทย์ปัญญา หาญพาณิชย์พันธ์ ซึ่งเสียชีวิตลงด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า นายแพทย์ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ เป็นแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอุตสาหะเสียสละ ตลอดระยะเวลา 35 ปี ที่รับราชการที่โรงพยาบาลมหาสารคาม และเมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว ยังคงปฏิบัติหน้าที่แพทย์ต่อไปโดยไม่ย่อท้อ นับเป็นแบบอย่างของผู้มีความศรัทธาเชื่อมั่นในความดี มีความรักในวิชาชีพของตน มีความตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ และมีเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ เมื่อนายปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ เสียชีวิตลงด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จากการปฏิบัติหน้าที่แพทย์อย่างเอาใจใส่ โดยเป็นบุคลากรทางการแพทย์คนแรกของประเทศไทย ที่เสียชีวิตจากโรคร้ายนี้ จึงทรงสลดพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก แก่นายปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ เป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม พุทธศักราช 2564 ประกาศ ณ วันที่ 5 มีนาคม พุทธศักราช 2564 เป็นปีที่ 6 ในรัชกาลปัจจุบัน
ประกาศ ผู้ชนะการเสนอราคาประกวดราคาซื้อ GAS OXYGEN LIQUID จำนวน 600,000 ลูกบาศก์เมตร
ตามเอกสารที่แนบท้ายประกาศนี้ประกาศผู้ชนะ ปี 2564
สโมสรไลออนส์มหาสารคาม มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลมหาสารคาม พร้อมรถเข็นแก่ผู้พิการ
(08-03-2564)ที่ห้องประชุมตักสิลา ชั้น 4 อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลมหาสารคาม สโมสรไลออนส์มหาสารคาม และสโมสรไลออนส์ชัยสุนทรกาฬสินธุ์ ภายใต้การสนับสนุนจากมูลนิธิไลออนส์สากล (LCIF) ร่วมกันมอบมอบเครื่องช่วยหายใจจำนวน 2 เครื่อง รถวีลแชร์ จำนวน 4 คัน และชุด PPE จำนวน 60 ชุด ให้แก่โรงพยาบาลมหาสารคาม โดยมีนายธรรมนูญ แก้วคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับนายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เป็นผู้รับมอบเครื่องมือแพทย์ดังกล่าว ซึ่ง
ไลออนส์ยุพวรรณ์ สิทธิคงศักดิ์ ผู้ว่าการไลออนส์สากลภาค 310-อี เปิดเผยว่า สโมสรไลออนส์เป็นองค์กรประกอบกิจกรรมสาธารณประโยชน์และช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้หรือประสบเคราะห์กรรมทั่วทั้งโลก โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน และเป็นสื่อกลางที่จะให้บริการแก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือจากทั่วไปทั้งโลก ซึ่งการสนับสนุนด้านการแพทย์แก่บุคลากรสาธารณสุข ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพี่น้องประชาชนให้พันทุกข์และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยสโมสรไลออนส์มหาสารคามได้เล็งเห็นว่าเครื่องช่วยหายใจ เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อการช่วยหลือชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยวิกฤตได้เป็นอย่างมาก จึงประสานความร่วมมือกับสโมสรไลออนส์ชัยสุนทรกาฬสินธุ์ จนเกิดเป็นโครงการมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ดัวกล่าวขึ้นมา
นอกจากนี้สโมสรไลออนส์ ยังได้มอบรถวีลแชร์จำนวน 4 คัน แก่ผู้พิการร่างกาย หวังให้ได้ดำเนินกิจวัตรประจำวันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และชุด PPE จำนวน 60 ชุด แก่บุคลากรทางการแพทย์เพื่อป้องกันการสัมผัสกับเชื้อโรค และลดโอกาสติดเชื้อขณะปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย ซึ่งกิจกรรมสาธารณะกุศลของมวลหมู่สโมสรไลออนส์ครั้งนี้ั ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้ทำเพื่อสังคม และจะดำเนินการในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามอย่างต่อเนื่องต่อไปในทุกปี
ด้านนายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม โรงพยาบาลมหาสารคาม ปัจจุบันสามารถรองรับผู้ป่วยในได้จำนวน 580 เตียง และดูแลรักษาผู้ป่วยนอกที่เป็นประชาชนทั้งในจังหวัดมหาสารคามและใกล้เคียงได้ประมาณ 1,500 คนต่อวัน และสามารถรองรับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจในห้องแยกโรคได้ถึง 28 เตียง โดยมีห้องความดันลบ 1 ห้อง และห้องแยกผู้ป่วยแบบประยุกต์ 7 ห้อง พร้อมบุคลากรการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีห้องผ่าตัด 12 ห้อง พร้อมด้วยแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งการได้รับอุปกรณ์ทางการแพทย์และชุด PPE จากสโมสรไลออนส์ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินหรือผู้ป่วยวิกฤตได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สโมสรไลออนส์สากล เป็นองค์กรการกุศลระดับโลก ที่มีเครือข่ายสมาชิก ใน 210 ประเทศ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1917 โดยมีพันธกิจสำคัญ คือ ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ หิวโหย ผู้ที่ประสบภัยพิบัติธรรมชาติ เด็ก เยาวชน สตรี คนชรา และผู้เจ็บป่วย โดยไม่หวังผลตอบแทน ในส่วนของประเทศไทยมีสมาชิกมากกว่า 7,000 คน กระจายอยู่เกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศ